วิธีการเลือก ลิปสติกติดทนนานที่สุด ที่ใช้ให้เหมาะกับสีผิว

สีผิวของคนมีความแตกต่างกันออกไป ตามลักษณะของชาติพันธุ์ ลักษณะการดำรงชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อสีผิวทั้งสิ้น ทำให้บางคนมีผิวคล้ำ บางคนมีผิวขาว บางคนมีผิวสองสีซึ่งมีเกี่ยวข้องกับลักษณะที่อยู่อาศัยหรือสภาพแวดล้อมของคนนั้นด้วย ถ้าหากเป็นคนที่มีเชื้อสายนิกรอยด์ก็จะทำให้เป็นคนมีผิวคล้ำ และเชื่อชาติเหล่านี้มักจะอาศัยอยู่ในเขตร้อนถึงร้อนจัดทำให้ส่งเสริมการมีสีผิวคล้ำเพิ่มขึ้นด้วย

เมื่อสีผิวของตนมีความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นลิปสติกก็มีสีแตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกัน สำหรับคนที่เริ่ม แต่งหน้า หรือเสริมความงามของตนเองด้วยเครื่องสำอางอาจจะต้องทำการเลือกสีของเครื่องสำอางให้สัมพันธ์กับสีผิวของตนเองด้วย โดยเฉพาะสีขิงลิปสติกที่สามารถเปลี่ยนลักษณะของรูปหน้าได้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่เริ่มแต่งหน้าสามารถนำวิธีการเลือกลิปสติกให้เหมาะสมกับสีผิวไปใช้ในการเลือก ลิปสติกติดทนนานที่สุด ได้ เพื่อจะได้เสริมความมั่นใจให้แก่ตนเองหลังจากที่ทำการแต่งหน้า

ทำความรู้จักสีผิวกับ ลิปสติกติดทนนานที่สุด

สำหรับสีผิวของคนจะแบ่งออกเป็น 3 สีผิวหลักได้แก่ผิวคล้ำ ผิวขาว และผิวสองสี ซึ่งสีผิวของแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไปตามลักษณะของชาติพันธุ์ ส่งผลให้สีผิวที่มีความแตกต่างกันก็จะทำให้ริมฝีปากของแต่ละสีผิว ถ้าหากเป็นคนที่มีผิวขาวจะมีริมฝีปากสีชมพู minebeauty ถ้าหากเป็นคนผิวคล้ำก็จะมีริมฝีปากสีคล้ำมากกว่าสีผิวอื่น หรือออกไปทางสีน้ำตาล ส่วนคนที่มีลักษณะสีผิวเป็นผิวสองสีจะมีสีของริมฝีปากเป็นสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งสีผิวที่คนเอเชียมีมากที่สุดก็คือสีผิวแบบผิวสองสี 

วิธีการเลือกลิปสติกที่ใช้ให้เหมาะกับสีผิว

สำหรับคนที่กำลังจะเริ่มต้นซื้อเครื่องสำอางและกำลังเริ่มหัดแต่งหน้า จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับสีของ ลิปสติกติดทนนานที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการแต่งหน้า ถ้าหากทำการทาแก้ม ทาสีตาให้เข้ากับสีผิวแล้วแต่เลือกลิปสติกผิดก็ทำให้ลักษณะของการแต่งหน้าที่เปลี่ยนไป

1. สีลิปสติกสำหรับคนที่มีผิวคล้ำ

สำหรับสาวที่มีผิวคล้ำ จะมีสีของริมฝีปากเป็นสีคล้ำไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม ทำให้การทาลิปสติกแบบสีอ่อนหรือสีชมพูอ่อนนั้นไม่เข้ากับลักษณะของสีผิวเท่าที่ควร เพราะจะทำให้จากคนที่ดูสวยกลายเป็นคนที่ป่วยแทน เมื่อคุณเป็นที่ผิวคล้ำแต่ทาสีปากแบบอ่อนอาจจะทำให้มีคนทักเพื่อให้เสียความมั่นใจได้ สี ลิปสติกมิสทีน ที่เหมาะกับคนที่มีผิวคล้ำ คือ สีโทนน้ำตาลเข้มไปจนถึงน้ำตาลนู้ด สีโทนแดง สีโทนส้ม และสีโทนแดงเข้ม ซึ่งสีลิปสติกโทนนี้จะช่วยให้ริมฝีปากของคนที่ทานั้นมีความโดเด่น และยังทำให้สีผิวนั้นมีความสง่างามเพิ่มมากขึ้น เป็นการเสริมความมั่นใจให้แก่คนที่ทาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสีโทนนี้ยังสามารถเลือกให้เข้ากับชุดที่สวมใส่ได้ง่ายและเหมาะสมกับสีผิว ถ้าหากคุณเป็นคนที่ผิวคล้ำและมีริมฝีปากที่สีคล้ำไปจนถึงน้ำตาลเข้มเลือกทาสีแบบนี้รับรองว่าจะต้องสวยคมอย่างแน่นอน

2. สีลิปสติกสำหรับคนผิวขาว

สำหรับสาวผิวขาว ถือว่าเป็นสาวที่โชคดีเพราะสามารถทาลิปสติกสีอะไรก็ได้ เพราะด้วยความที่เป็นคนผิวขาวสามารถใช้ร่วมได้กับทุกโทนสี แต่ถ้าหากต้องการให้สีผิวของตนเองนั้นโดดเด่นเวลาที่ต้องแต่งหน้าจะต้องใช้ลิปสติกที่มีโทนสีดังนี้ คือ สีโทนชมพู โดยในคนผิวขาวยังมีการแบ่งออกเป็นขาวเหลือง ซึ่งคนผิวขาวเหลืองจะมีโทนสีผิวที่เพิ่มความเข้มขึ้นมาแต่ไม่ถึงกับเป็นคนผิวสองสี ควรจะเลือกสีลิปสติกแบบโทนสีชมพูออกไปทางสว่าง ไม่ควรเลือกสีชมพูที่ดูหม่น ๆ หรือจะเลือกสี ลิปสติกติดทนนานที่สุด เป็นโทนส้ม ก็สามารถช่วยให้ผิวของคุณดูโดดเด่นได้ ส่วนคนที่มีผิวขาวอมชมพูควรจะเลือกทาลิปสติกโทนสีชมพูพาทเทล หรือสีชมพูที่ไม่อ่อนมากและไม่เข้มมาก เพื่อส่งเสริมบุคลิกให้ดูเป็นคนที่น่าทะนุถนอม สำหรับคนที่มีสีผิวขาว ไม่ว่าจะเป็นขาวเหลือหรือขาวอมชมพูก็ควรจะเลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิวจะดีที่สุดและเลือกให้เหมาะสมกับชุดที่ตนเองต้องการใส่ด้วย 

3. สีลิปสติกสำหรับคนผิวสองสี

สำหรับคนที่มีผิวสองสี หรือที่บางคนเรียกว่าผิวสีน้ำผึ้ง จะมีริมฝีปากเป็นสีน้ำตาลอ่อน ทำให้สามารถเลือก สีลิปสติก ได้ง่ายกว่าคนที่มีผิวคล้ำ เพราะฉะนั้นควรจะเลือกลิปสติกที่มีโทนสีส้มอ่อน หรือสีส้มที่มีความสว่าง สีโทนแดง สีโทนชมพูเข้ม แต่ไม่ควรใช้สีลิปสติกที่มีความเข้มมากเกินไป เพราะจะทำกลมกลืนกับสีผิว แม้ว่าคนผิวสองสีจะไม่ได้สีผิวที่คล้ำและก็ไม่ได้มีสีผิวที่ขาวจนเกินไป ทำให้การเลือกสีลิปสติกนั้นจะต้องเลือกโทนสีที่ช่วยขับสีผิวให้มีความโดดเด่นเพิ่มมากขึ้นแทน เพราะฉะนั้นไม่ควรเลือกสีลิปสติกที่อ่อนเกินไป หรือว่าเข้มเกินไป หรืออาจจะใช้ ลิปสติกมิสทีน ที่เป็นลิปกรอสก็ได้ 

สำหรับวิธีการเลือกสีลิปสติกให้เข้ากับสีผิว เป็นเพียงวิธีการเบื้องต้นเท่านั้น ถ้าหากเป็นคนที่ชื่นชอบสีใดสีหนึ่งอยู่แล้วแต่อาจจะไม่เข้ากับสีผิว ก็สามารถทำการปรับระดับของสีหรือเฉดให้ลดลงได้ อาทิเช่นเป็นคนผิวขาวแต่ชอบสีลิปสติกที่มีความเป็นสีนู้ดมาเกินไปก็อาจจะทำให้ผิวของคุณนั้นดูซีดและเหมือนคนป่วยเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นควรจะปรับเป็นสีชมพูในเฉดที่เพิ่มความสว่างให้แก่ผิวแทน เป็นต้น

ทำไมจึงต้องเลือกสีลิปสติกให้เข้ากับสีผิว

1. การเลือกสีลิปสติกให้เข้ากับสีผิวเป็นการเสริมความมั่นใจให้แก่คนใช้รูปแบบหนึ่ง เพราะการใช้ ลิปสติกติดทนนานที่สุด ให้เข้ากับสีผิวนั้นจะทำให้ทั้งชุดและลักษณะของใบหน้ามีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น ผู้หญิงทุกคนที่แต่งหน้าเพื่อช่วยในการเสริมความมั่นใจก่อนออกจากบ้านทั้งสิ้น และสิ่งที่จะโดนทักจากคนภายนอกมากที่สุดก็คือสีปาก ถ้าหากเลือกสีที่ไม่เหมาะสมกับสีผิวของตนเองอาจจะดูเป็นคนป่วยได้ 

2. การแต่งหน้าเป็นการเสริมบุคลิกภาพรูปแบบ ซึ่งในบางอาชีพจะส่งเสริมให้พนักงานของตนเองนั้นแต่งหน้า เพื่อช่วยในการเสริมบุคลิกก็ภาพ การแต่งหน้าจะต้องเลือกสีลิปสติกและโทนสีของลิปสติกให้เหมาะสมกับลักษณะของสีผิวจะดีที่สุด เพราะสีลิปสติกจะช่วยเสริมบุคลิกภาพให้แก่คนที่ใช้ ลิปสติกมิสทีน ได้ สามารถสังเกตได้จากที่บางคนเมื่อทาลิปสติกที่เข้ากับสีผิวของตนเองแล้วจะทำให้มีรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป เช่น คนที่ทำงานหนักจะมีผิวคล้ำแดดเมื่อแต่งหน้าก็ต้องเลือกลิปสติกไปโทนส้ม รวมไปถึงการแต่งหน้าด้วย เพื่อช่วยขับผิวให้ดูมีราศีเป็นคนที่ไม่ทำงานหนักได้ เป็นต้น

3. การเลือกสีลิปสติกให้เข้ากับสีผิวจะช่วยปรับลักษณะของรูปปากได้ ถ้าหากเป็นคนที่มีริมฝีปากหนาควรจะเลือกใช้สีโทนเข้ม แต่ถ้าหากเป็นคนที่มีริมฝีปากบางควรจะใช้ลิปสติกโทนอ่อนแทน แต่ก็ควรจะคำนึงถึงสีผิวของตนเองด้วยเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ถ้าหากเลือกใช้ สีลิปสติก ได้เข้ากับสีผิวแล้วจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

การเลือกสีลิปสติกให้เข้ากับสีผิวนับว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะการที่ผู้หญิงจะมีความมั่นใจได้จะต้องมาจากทั้งภายในและภายนอก ถ้าหากภายในเป็นคนจิตใจดี และภายนอกสามารถเลือกแต่งหน้าได้สวย มีสีของ ลิปสติกติดทนนานที่สุด ที่ช่วยขับผิว และเสริมสร้างบุคลิกภาพแล้วก็จะสามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่คนที่ใช้ได้เป็นอย่างดี ถ้าหากวันนี้คุณถูกทักว่าดูป่วยอาจจะมาจาการที่เลือกลิปสติกผิดเฉดสี หรือใช้ลิปสติกที่ไม่เข้ากับสีผิวก็ได้