หมวดหมู่
minebeauty

เมนู

ทำความรู้จักกับทรง ชุดเดรส แต่ละแบบมีชื่อเรียกว่าอย่างไร

minebeauty
1,070 VIEWS
ทำความรู้จักกับทรง ชุดเดรส แต่ละแบบมีชื่อเรียกว่าอย่างไร

ชุดเดรส เป็นเสื้อผ้าที่ผู้หญิงหรือเด็กหญิงมักสวมใส่ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าชิ้นเดียวที่มีกระโปรงยาวเท่าใดก็ได้ และสามารถเป็นทางการหรือลำลองก็ได้ อีกทั้งเดรสยังมีสีที่ต่างกัน วันนี้ เว็บผู้หญิง minebeauty เลยจะพาทุกคนมาดูว่าชุดเดรสแต่ละทรงเรียกว่าอะไรกันบ้าง

ชุดเดรส

ชื่อเรียกและลักษณะของทรง ชุดเดรส

  1. Aline Dress เดรสยอดนิยม ซึ่งทรงเดรสนี้จะมีจุดสังเกตเฉพาะได้จากส่วนบนของชุดนั้นจะเป็นแบบพอดีตัว จนถึงช่วงเอว หลังจากนั้นค่อย ๆ ขยายออกจนถึงชายกระโปรง
  2. Tunic Dress ชุดเดรสนี้จะออกแนว oversize ใส่สบาย ซึ่งปลายชายกระโปรงนั้นอาจจะสิ้นสุด อยู่ตรงช่วงสะโพก หรือเหนือหัวเข่าเล็กน้อย ซึ่งเดรสลักษณะนี้ สามารถใส่เป็นชุดเดรส หรือใส่เป็นเสื้อตัวบน ซึ่งส่วนใหญ่จะใส่แมกช์กับกางเกงเลคกิ้ง
  3. Blouson Dress ชุดนี้จะสังเกตได้จากช่วงเอวนั้นจะเป็นแบบยางยืด หรือจั้มเอว ซึ่งเวลาสวมใส่ทำให้ส่วนบนดูหลวม ส่วนล่างจะพอดีตัว
  4. Shirt Dress เดรสชนิดนี้จะคล้ายทรงของเสื้อเซิ๊ต ช่วงคอจะเป็นแบบมีปก และด้านหน้าจะมีกระดุมติดถึงช่วงเอว หรือจนถึงชายกระโปรง ซึ่งในบางแบบอาจจะมีกระเป๋าด้วย
  5. Wrap Dress ชุดเดรส นี้จะมีลักษณะนำผ้าทั้งสองด้านมาทบกันด้านหน้า ซึ่งด้วยลักษณะของชุดทำให้ช่วงคอของชุดเป็นแบบคอวี ซึ่งบางแบบจะมีสายผูกเอวให้ด้วย
  6. Baby Doll Dress เป็นชุดเดรส หวาน ๆ น่ารัก ซึ่งส่วนบนของชุดจะเป็นทรงแบบพอดีตัวจนถึงช่วงเอว หลังจากนั้นช่วงล่างจะขยายออก โดยความยาวของชุดเดรสนั้นจะอยู่เหนือเข่าขึ้นไป
  7. Body con dress แฟชั่น เดรสชนิดนี้ออกแบบทรงของชุดให้เข้ารูปกับหุ่นของผู้สวมใส่ ซึ่งเวลาสวมใส่จะทำให้โชว์สัดส่วนได้อย่างชัดเจน ตัวชุดนั้นจะมีความยาวเหนือหัวเข่าขึ้นไป และเนื้อผ้าที่ใช้จะเป็นผ้ายืด
  8. debuntante dress เดรสนี้จะมีความคล้ายคลึงกับชุดเจ้าสาวที่นิยมแต่งกันในปัจจุบัน โดยตัวชุดนั้นจะเป็นชุดสีขาวยาวจรดพื้น พร้อมสร้อยไข่มุก และสวมใส่ถุงมือสีขาวด้วย
  9. Skater Dress ช่วงลำตัวของชุดนั้นจะเป็นแบบเข้ารูป ซึ่งส่วนกระโปรงนั้นจะเป็นแบบกระโปรงทรงกลม ซึ่งเวลาจับกระโปรงออกนั้นจะคล้ายกับรูปวงกลม  และความยาวของชุดจะอยู่เหนือหัวเข่าขึ้นไป
  10. Pinafore Dress ลักษณะของชุดเดรสทรงนี้จะผสมผสานกันระหว่าง ชุดกระโปรงกับผ้ากันเปื้อน และส่วนล่างของชุดจะเป็นแบบกระโปรง ตัวชุดนี้มักที่จะสวมใส่พร้อมกับ เสื้อตัวบน เช่น เสื้อยืด เสื้อกล้าม หรือเสื้อเบลาส์  เป็นต้น
  11. Granny Dress เดรสชนิดนี้จะมีรูปทรงแบบหลวม แขนยาว ความยาวของชุดจะยาวต่ำกว่าหัวเข่า จนถึงข้อเท้า ปัจจุบัน ผู้หญิงที่มีอายุยังคงนิยมสวมใส่อยู่ เนื่องจากเนื้อผ้าเบาบาง และตัวทรงที่เป็นแบบหลวม จึงทำให้เวลาสวมใส่รู้สึกสบาย 
  12. Tent Dress or Trapeze Dress มีลักษณะโป่งพอง โดยส่วนไหล่จะแคบสุด และค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นจนถึงชายกระโปรง ตัวเนื้อผ้าที่ใช้จะมีลักษณะพริ้วไหว 
  13. Empire line Dress ชุดเดรส ชนิดนี้ช่วงเอวของชุดนั้นจะเริ่มจากทีใต้หน้าอก หรือมีการตกแต่งดีเทลของชุดช่วงใต้หน้าอกไม่ว่าจะเย็บเป็นเส้น ๆ รอบ ยางยืดรัด หรือส่วนเอวของชุดจะเริ่มจากใต้หน้าอก ซึงความยาวของชุดจะยาวลงถึงข้อเท้า
  14. Shift Dress ลักษณะของชุดส่วนแขนจะเป็นแขนกุด หรือแขนสั้น ความกว้างของชุดตั้งแตช่วงไหล่ จนถึงชายกระโปรง จะเท่ากันตลอด คล้ายรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
  15. Drindle Dress ชุดเดรสตัวนี้เป็นเดรสที่นิยมสวมใส่ของผู้หญิงยุโรปในสมัยก่อน  ซึ่งตัวชุดนี้จะเหมือนมีการปักผ้ากันเปื้อนไว้ที่ด้านหน้าของชุด
  16. Sheath Dress เดรสชนิดนี้จะตัดเย็บตัวชุดให้พอดีตัวไปกับผู้สวมใส่ และด้านหลังจะมีการทำซิปเพื่อให้เวลาสวมใส่ใส่ได้ง่าย ส่วนความยาวของชุดจะยาวเหนือหัวเข่า ซึ่งชุดนี้จะช่วยขับเน้นสัดส่วนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี
  17. Low or drop waist Dress ชุดเดรสสั้น ทรงนี้จะมีการเย็บตะเข็บตรงตำแหน่งสะโพก คล้ายเหมือนเอวกระโปรง ซึ่งตรงส่วนชายกระโปรงนั้นจะมีลักษณะออกบาน ๆ ดูพริ้วไหว ซึ่งมีทั้งรูปบบจับจีบ เป็นแบบชายระบาย แบบผ้าซีทรู ฯลฯ
  18. Mermaid dress / Trumpet Dress เดรสชนิดนี้จะเข้ารูปตั้งแต่ส่วนบนจนถึงช่วงหัวเข่า หลังจากนั้นตัวกระโปรงจะขยายออกจนถึงชายกระโปรง หรือเหมือนรูปหางปลา ซึ่งความยาวของชุดจะยาวจนถึงตามตุ่ม หรือลากพื้น
  19. Maxi Dress ชุดเดรสยาว นี้มีลักษณะเข้ารูปในช่วงบนลำตัว ส่วนกระโปรงนั้นจะยาวจนถึงข้อเท้า หรือเหนือข้อเท้าเล็กน้อย ตัวเนื้อผ้าที่ใช้มักที่จะใช้ผ้าที่มีความพลิ้วไหว ซึ่งเวลาสวมใส่แล้วจะรู้สึกสบาย ทั้งยังโชว์ทรวดทรงของเราได้เป็นอย่างดี
  20. Swing Dress ชุดเดรสสั้น ชนิดนี้จะเข้ารูปช่วงบนสุด หลังจากนั้นจะขยายออกจนถึงชายกระโปรง โดยความยาวของชุดนั้นจะอยู่ช่วงหัวเข่า หรือเหนือหัวเข่าขึ้นไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

บทความน่าสนใจ

นวดอโรม่า (Aroma Massage) คือ ศาสตร์การนวดอีกแขนงหนึ่งที่มุ่งเน้นการใช้น้ำมันหอมระเหย เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญประกอบการนวด

โรคซึมเศร้า เป็นอาการผิดปกติของอารมณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งด้านความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมเศร้าหมองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แฮม เป็นชิ้นเนื้อสัตว์จากต้นขาหลังของสัตว์บางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุกร แฮมส่วนใหญ่ผ่านการถนอมอาหารและสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสุกและดิบ

อาร์ติโชค เป็นพืชเมืองหนาว มีถิ่นกำเนิดในยุโรปเขตเมดิเตอร์เรเนียน มีสรรพคุณทางยา สามารถบริโภคสดหรือปรุงเป็นอาหาร

เลเซอร์รักแร้ คือ การกำจัดขนบริเวณรักแร้ผ่านการยิงพลังงานเลเซอร์เพื่อทำลายรากขน ชะลอการเกิดขนรักแร้เส้นใหม่