บำรุงผิวหน้าด้วยการทำทรีทเมนต์และ ทรีทเม้นท์ผิว

การบำรุงผิวหน้าสามารถทำได้หลากหลายวิธี ทั้งการล้างหน้าให้สะอาด การทา ครีมบำรุงผิวหน้า โดยเฉพาะและให้ตรงกับสภาพผิวหน้า การทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ การมาร์กหน้าเพื่อการเติมสารอาหารให้แก่ผิว และยังมีการทำทรีทเมนต์ ทรีทเม้นท์ผิว เพื่อช่วยในการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก ซึ่งการเลือกดูแลผิวหน้าจะใช้วิธีการใดในการดูแลก็สามารถทำได้ทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละบุคคล

การทำทรีทเมนต์หน้าเป็นสิ่งที่ดีและสามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับผิวหน้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะปัญหาผิวขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น ปัญหาผิวหน้าแห้ง ปัญหาความหมองคล้ำ ปัญหาเหล่านี้จะได้รับการฟื้นฟูและแก้ไขจากการทรีทเมนต์หน้า ก่อนการเริ่มทำทรีทเมนต์หน้าผู้ที่สนใจจะต้องทำการศึกษาข้อมูลและเลือกสถาบันเสริม ความงาม หรือโรงพยาบาลที่ดีและมีมาตรฐาน เพื่อจะได้บำรุงผิวหน้าอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย

การทำทรีทเมนต์หน้า ทรีทเม้นท์ผิว คืออะไร

การทำทรีทเมนต์หน้า คือ การบำรุงผิวรูปแบบหนึ่งที่มีการใช้อุปกรณ์เพื่อการปรนนิบัติผิวโดยเฉพาะ เพื่อในการช่วยแก้ไขปัญหาความหมองคล้ำ ปัญหาผิวขาดน้ำ ปัญหาผิวแห้ง และยังมีการบำรุงด้วยสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับผิว ทั้งวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี และสารอาหารประเภทอื่นซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของทรีทเมนต์ที่นำมาใช้ในการทำทรีทเมนต์หน้า ทรีทเม้นท์ผิว ใช้เวลาในการทำไม่นานเพียงแค่ 30 นาทีก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับบริการ

การทำทรีทเมนต์หน้าเหมาะสำหรับคนอายุเท่าใด

1. อายุระหว่าง 20-30 ปี

ผู้หญิงที่มีช่วงวัยอายุระหว่าง 20-30 ปี เป็นวัยที่สุขภาพของผิวพรรณยังมีความสดใส มีความกระชับ และไม่มีริ้วรอย แต่จะมีปัญหาเรื่องผิวที่ขาดความชุ่มชื้น และสำหรับผู้หญิงบางคนก็อาจจะเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรเป็นผลมาจากการที่ในการดำเนินชีวิตต้องมีการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ ทางใบหน้าทำให้เกิดริ้วรอยตามมา ทรีทเม้นท์ผิว การทำทรีทเมนต์หน้าของช่วงวัยอายุนี้ก็จะเน้นไปที่การสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า และป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ทางสถาบันความงามก็จะแนะนำให้ทำเดือนละ 1-2 ครั้ง และให้กลับมาทำซ้ำอีกครั้งในช่วง 2-3 เดือน นอกจาการทำทรีทเมนต์หน้าที่สถาบันแล้วเมื่อกลับบ้านก็ควรที่จะดูแลผิวหน้าด้วย ครีมบำรุงผิวหน้า ต่าง ๆ 

2. อายุระหว่าง 30-40 ปี 

ผู้หญิงที่มีช่วงวัยอายุระหว่าง 30-40 ปี เป็นวัยทำงานที่ผิวเริ่มมีการเสื่อมถอย มีการผลัดเซลล์ผิวที่น้อยลงเฉลี่ยแล้ว 30 วันจึงจะทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าของผู้หญิงวัยนี้เริ่มที่จะมีริ้วรอยที่มากขึ้น สภาพผิวขาดความชุ่มชื้นและแห้ง ทำให้เหมาะสำหรับการทำทรีทเมนต์หน้าเพื่อลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นบริเวณรอบดวงตาและปาก โดยทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพิ่มเติมเพื่อลดริ้วรอยและฟื้นฟูสภาพผิวหน้า

3. อายุระหว่าง 40-50 ปีขึ้นไป

ผู้หญิงที่มีช่วงวัยอายุระหว่าง 40-50 ปีขึ้นไป เป็นวัยที่ต้องทำงานและได้เผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ ทำให้สภาพผิวนั้นขาดความชุ่มชื้นและแห้ง มีริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย ผิวยังขาดความกระชับและขาดความยืดหยุ่น ทางสถาบันความงามจะแนะนำให้ทำทรีทเมนต์หน้าอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งติดต่อกันเพื่อเสริมสร้าง และซ่อมแซมสภาพผิวที่ได้เผชิญกับมลภาวะและแสดงแดดมาอย่างยาวนาน เมื่อทำทรีทเมนต์หน้าแล้วก็ต้องรักษาผิวหน้าอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 1-2 เดือน ทรีทเม้นท์ผิว และควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่สภาพผิวหน้าตามความเหมาะสมขวงวัย

วิธีการทำทรีทเมนต์หน้าที่ได้รับความนิยม

สำหรับการทรีทเมนต์หน้าจะมีประเภทที่แตกต่างกันตามความต้องการของผู้ที่เข้ารับบริการ หรือตามปัญหาผิวของแต่ละคน โดยปัญหาผิวส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องับปัญหาความหมองคล้ำ ปัญหาผิวขาดน้ำ ปัญหาผิวแห้งจนทำให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ แต่มีวิธีการทำเพียงแค่ 4 ขั้นตอนเท่านั้น

ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากการใช้คลื่นวิทยุกำจัดเซลล์คอลลาเจนที่เสื่อมสภาพแล้วให้เกิดการหดตัวเพื่อยกกระชับใบหน้า และคลื่นวิทยุจะทำการสร้างเส้นใยหรือเซลล์คอลลาเจนขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ในการ บำรุงผิวหน้า ให้มีความแข็งแรง ตึงกระชับ ลดความหย่อนคล้อย นอกจากนี้ยังช่วยสลายไขมันส่วนเกินบนใบหน้าให้หายไป เพื่อช่วยในการปรับรูปหน้าให้มีความคมชัด

ขั้นตอนที่ 2 ใช้พลังงานอ่อน ๆ เพื่อยกกระชับอวัยวะอื่นบนใบหน้าที่มีความบอบบาง โดยจะต้องทำด้วยความอ่อนโยนเพื่อไม่ให้คลื่นวิทยุทำอันตรายต่อผิวในบริเวณที่บอบบางได้ เช่น บริเวณใต้ตา ลำคอ และคิ้ว ในขั้นตอนที่ 2 จะเป็นการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกเพิ่มมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 3 เพิ่มประสิทธิภาพของผิวหน้าให้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งความหย่อนคล้อย ริ้วรอยต่าง ๆ หายไป และจะเพิ่มความเข้มข้นในการทำทรีทเมนต์ เพื่อยกกระชับใบหน้าให้มีความเต่งตึง รวมถึงเพิ่มความคมชัดให้แก่รูปหน้า เพิ่มความสว่าง กระจ่างใสให้แก่ผิวหน้าได้มากขึ้นและบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน 

ขั้นตอนที่ 4 ใช้เทคโนโลยีความเย็น สลับกับความร้อนเพื่อช่วยในการลดเลือนริ้วรอย และลดรอยดำ รอยแดงที่เกิดกับผิวหน้าโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความกระจ่างใส่ เพิ่มคอลลาเจนให้แก่ผิวหน้าเพื่อลดปัญหาความหมองคล้ำที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี 

ถ้าหากเข้ารับการทำทรีทเมนต์ครบทั้ง 4 ขั้นตอนก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาของผิวได้อย่างตรงจุด และมีประสิทธิภาพ และหลังจากการทำทรีทเมนต์จะต้องทำการดูแลผิวหน้าเช่นเดิม เพื่อเป็นการปกป้องผิวให้แลดูสุขภาพดี พร้อมทั้งไม่ให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาในภายหลัง

การปฏิบัติตนหลังจากการรับบริการทรีทเมนต์หน้า

1. หลังจากเข้ารับบริการการทำทรีทเมนต์หน้าจะต้องทำการทา ครีมบำรุงผิวหน้า เพื่อช่วยในการปกป้องผิว และใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดด้วย เนื่องจากหลังการทรีทเมนต์หน้าจะทำให้ผิวหน้าบางลงและมีความไวต่อแสงแดดเพิ่มมากขึ้น

2. งดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เนื่องจากผิวหน้ามีความไวต่อแสงแดด และแสงแดดยังเป็นตัวการในการทำร้ายผิวให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องออกทำงานกลางแจ้งก็ควรจะใช้อุปกรณ์ในการปิดบังใบหน้าหรือปกป้องใบหน้าจากแสงแดด เช่น หมวก หรือร่ม เป็นต้น

3. ผู้ที่มีผิวหน้าบอบบางหรือมีเส้นเลือดที่หน้าตื้นกว่าปกติจะต้องทำการปรึกษาแพทย์ก่อนการทำทรีทเมนต์ ทรีทเม้นท์ผิว หรือจะเลือกการทำทรีทเมนต์แบบอ่อนโยน พร้อมทั้งดูแลผิวหลังการทำให้ดีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ผิวหน้า

4. งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์และการสูบบุหรี่ทุกชนิด เพื่อไม่ให้สารพิษตกค้างไปยังบริเวณผิวหน้าหลังจากที่เข้ารับบริการ

ทรีทเมนต์อย่างน้อย 1 สัปดาห์

5. งดการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่มีส่วนผสมของเรติเออย่างน้อย 3 วัน เนื่องจากหลังจากการเช้ารับบริการทรีทเมนต์หน้า จะทำให้ผิวหน้ามีความไวต่อแสงและกรด อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้

6. ถ้าหากหลังการเข้ารับบริการแล้วเกิดผื่น รอยแดง อาการแสบร้อน คัน บริเวณที่หน้าให้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการประคบเย็น ถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ที่ทำการทำทรีทเมนต์หน้าให้

การทำทรีทเมนต์หน้า เป็นการ บำรุงผิวหน้า อย่างล้ำลึกและยังช่วยปรนนิบัติผิวที่ได้ทำงานหนัก และยังเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ ทั้งฝุ่น ควัน สิ่งสกปรก และแสงแดดที่ได้ทำการสะสมกับผิวหน้ามาเป็นระยะเวลานาน แม้จะทำการล้างหน้าให้สะอาด มาร์กหน้าด้วยแผ่นมาร์ก หรือมาร์กหน้าด้วยสารสกัดจากธรรมชาติแล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาผิวหน้า ทั้งปัญหาผิวหน้าแห้งจนทำให้เกิดริ้วรอย ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำขาดความชุ่มชื้น การทำทรีทเมนต์จะช่วยในการแก้ปัญหาอย่างล้ำลึกเพิ่มขึ้นกว่าการมาร์กหน้า และยังบำรุงผิวหน้าด้วยทรีทเมนต์สูตรเฉพาะเพื่อให้เกิดผลกับผิวหน้าอย่างดีที่สุด และเมื่อเข้ารับบริการแล้วจะต้องปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำ รีวิว อย่างเคร่งครัดด้วย