หมวดหมู่
minebeauty

เมนู

เจาะลึก! “ยาแก้แพ้” รักษาโรคอะไรได้บ้าง รับประทานบ่อย ๆ อันตรายหรือไม่?

เจาะลึก!  “ยาแก้แพ้”  รักษาโรคอะไรได้บ้าง รับประทานบ่อย ๆ อันตรายหรือไม่?

ในช่วงที่เรามีอาการแพ้อากาศ มีอาการจาม น้ำมูกไหล หรือแม้กระทั่งแพ้ฝุ่น แพ้อาหาร จนกระทั่งทำให้เกิดอาการคัน เป็นผื่นขึ้นมาตามร่างกาย ยาแก้แพ้ ถือได้ว่าเป็นสิ่งแรกที่ผู้มีอาการแพ้มักจะนึกถึง ส่วน ยาแก้แพ้ แก้คัน เราทุกคนสามารถซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป และมีอีกหนึ่งกรณีก็คือ เราจะพบว่าในบางครั้งแพทย์กลับให้ ยาแก้ภูมิแพ้ ควบคู่มากับยาแก้ไข้หวัด จนกระทั่งทำให้เกิดความสงสัยที่ว่า ยาแก้แพ้ แตกต่างจากยาลดน้ำมูกหรือไม่ หากรับประทานยาบ่อย ๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่? วันนี้ minebeauty จึงขอนำข้อมูลเกี่ยวกับยาชนิดนี้มาให้ทุกคนได้ศึกษากันค่ะ

มาทำความรู้จัก“ยาแก้แพ้”กันเถอะ!

ในส่่วนของยาแก้แพ้จัดได้ว่าเป็นยาที่สามารถต้านสารฮิสตามีนได้ ซึ่งสารชนิดนี้จะมีอยู่ตามเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายได้ถูกกระตุ้นจนทำให้เกิดอาการแพ้ จะส่งผลทำให้ฮิสตามีนได้ถูกหลั่งออกมาและทำให้ร่างกายเกิดอาการผิดปกติ อย่างเช่น เกิดอาการคัน มีผื่นคันตามตัว มีน้ำมูกไหล หรือไม่ก็หายใจลำบาก เพราะฉะนั้น การรับประทาน ยาแก้ภูมิแพ้  จส่งผลทำให้บรรเทาอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้ โดยปกติแล้วตัวยาจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

1.ยาแก้แพ้แบบง่วงหรือยากลุ่มดั้งเดิม

จัดได้ว่าเป็น ยาแก้ภูมิแพ้ ที่สามารถรักษาอาการแพ้อากาศได้ หรือสำหรับผู้ป่วยที่มีเยื่อจมูกอักเสบ มีอาการคัน จาม มีผื่น เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นต้น และยังคงสามารถบรรเทาอาการเมารถ เมาเรือ ได้เช่นกัน สำหรับตัวยาชนิดนี้มีการเข้าสู่เซลล์สมองและไปทำหน้าที่ในการกดประสาท จะส่งผลทำให้ทำให้รู้สึกง่วงได้ พร้อมทั้งอาจจะมีอาการจมูกแห้ง ปากแห้ง มีอาการกระวนกระวาย ตาพร่ามัว เป็นต้น ด้วยเหตุนี้การรับประทานยาแก้แพ้แบบง่วงจำเป็นจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เป็นหลักจะดีที่สุด

2.ยาแก้แพ้แบบไม่ง่วง

นับได้ว่าเป็นยาแก้แพ้แบบรุ่นใหม่ สามารถปรับเพื่อให้ตัวยาได้ทำการออกฤทธิ์เหมือนกับตัวเก่า แต่ยาจะสามารถผ่านเข้าสู่สมองได้น้อยมาก ๆ เมื่อรับประทานแล้วจะไม่ง่วงเหมือนกับการรับประทาน ยาแก้ภูมิแพ้ แบบดั้งเดิม นอกจากนี้ ยารุ่นใหม่ยังสามารถบรรเทาอาการลมพิษได้เฉียบพลันและดีกว่ารุ่นเก่า สามารถลดอาการคันที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว่า แต่ถ้าหากเป็นอาการเมารถ เมาเรือ หรือน้ำมูกไหล ยาตัวนี้จะบรรเทาอาการได้ไม่ดีเท่ากับยาตัวเก่านั่นเอง

สรุปยาแก้แพ้สามารถรักษาโรคไหนได้บ้าง?

  • เป็นผื่น มีอาการคัน
  • อาการอักเสบ อาการบวม
  • ตาแดง ตาแฉะ
  • จาม น้ำมูกไหล
  • มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน
  • อาการเวียนหัวที่เกิดจากเมารถและเมาเรือ

ยาแก้ภูมิแพ้ แตกต่างจาก ยาลดน้ำมูก อย่างไร?

ยาแก้ภูมิแพ้ :  มักจะใช้เมื่อมีอาการแพ้ น้ำมูกไหลเนื่องจากเกิดอาการแพ้ ส่วนใหญ่น้ำมูกจะใสและมีลักษณะไหลเยอะ แต่จะไม่ค่อยคัดจมูกเท่าไหร่นัก หากมีน้ำมูกที่เหนียวข้น แพทย์มักจะไม่จ่ายยาแก้แพ้ให้ เพราะเมื่อรับประทานยาเข้าไปแล้วจะยิ่งทำให้น้ำมูกมีลักษณะเหนียวข้นกว่าเดิม

ยาลดน้ำมูก : ใช้ในกรณีที่เกิดอาการคัดจมูก หรือว่าจามมาก ๆ จนกระทั่งทำให้เยื่อบุจมูกมีลักษณะบวม ซึ่งยาลดน้ำมูกจะช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก ลดอาการจมูกตันและหายใจไม่ออก

การรับประทานยาแก้แพ้ หรือยาแก้แพ้ แก้คันบ่อยครั้ง จะส่งผลทำให้ระบบประสาทเกิดอาการเคยชิน ส่งผลทำให้ภายหลังเมื่อรับประทานยาจำเป็นจะต้องเพิ่มปริมาณยามากขึ้น และที่สำคัญหากรับประทานบ่อยครั้งไปนาน ๆ จะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจพร้อมทั้งหลอดเลือด ส่งผลทำให้หายใจลำบาก มีอาการแน่นหน้าอก ใจสั้น และอาจจะมีผลต่อระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย

บทความน่าสนใจ

นวดอโรม่า (Aroma Massage) คือ ศาสตร์การนวดอีกแขนงหนึ่งที่มุ่งเน้นการใช้น้ำมันหอมระเหย เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญประกอบการนวด

โรคซึมเศร้า เป็นอาการผิดปกติของอารมณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งด้านความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมเศร้าหมองที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แฮม เป็นชิ้นเนื้อสัตว์จากต้นขาหลังของสัตว์บางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุกร แฮมส่วนใหญ่ผ่านการถนอมอาหารและสามารถรับประทานได้ทั้งแบบสุกและดิบ

อาร์ติโชค เป็นพืชเมืองหนาว มีถิ่นกำเนิดในยุโรปเขตเมดิเตอร์เรเนียน มีสรรพคุณทางยา สามารถบริโภคสดหรือปรุงเป็นอาหาร

ชุดเดรส เป็นเสื้อผ้าที่ผู้หญิงหรือเด็กหญิงมักสวมใส่ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าชิ้นเดียวที่มีกระโปรงยาวเท่าใดก็ได้ และสามารถเป็นทางการหรือลำลองก็ได้